ประเภทบทความ/งานวิจัย : R2R สถานะ : เก็บข้อมูล
   บทความ/วิจัย เรื่อง : โครงการล้อมบ้าน ล้อมรัก ขจัดภัยยาเสพติด บ้านคำกุง หมู่ที่ 5 ตำบลศรีสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
ผู้แต่ง : นางสาวสวรรยา ภูมิพันธ์ และคณะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองแสง ปี : 2563
     
หลักการและเหตุผล : ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหายาเสพติดมาช้านาน โดยสภาพปัญหาได้เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะการณ์ของโลกในยุคปัจจุบัน เด็กและเยาวชนเริ่มใช้ยาเสพติดมีอายุน้อยลง จากระบบรายงาน บสต. ของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามกรมสุขภาพจิต พบว่า ผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดกระทรวงสาธารณสุข ปี 2556-2558 จำนวน 156,884 คน 98,421 คน และ 55,683 คน ตามลำดับ โดยเป็นผู้เข้ารับการบำบัดรักษาในหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิต จำนวน 3,975 คน 4,071 คน และ 3,912 คน ตามลำดับ จากสถิติการเข้ารับการบำบัดรักษาแม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลง แต่กลับพบว่าผู้เข้ารับบำบัดรักษาเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 15-24 ปี มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 50 (ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรมสุขภาพจิต, 2559) ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ควรได้รับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อยาเสพติด และปัจจัยยั่วยุต่างๆ รวมทั้งการเสริมสร้างทักษะชีวิตเพื่อป้องกันการกลับไปใช้ซ้ำ ซึ่งเมื่อจำแนกชนิดยาเสพติดที่มีผู้เข้ารับการบำบัดรักษามากที่สุด คือ ยาบ้า ร้อยละ 75.20 รองลงมา คือ กัญชา ร้อยละ 6.83 และกระท่อม ร้อยละ 4.17 ด้านพฤติกรรมการใช้ยาเสพติดที่น่าเป็นกังวล คือ การใช้ยาเสพติดมากกว่า 1 ชนิดร่วมกันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้การบำบัดรักษามีความยุ่งยาก ซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ปัจจุบันยังพบว่าเด็กและเยาวชนมีการนำสารต่างๆ ที่หาได้ง่ายมาผสมกันเพื่อให้ออกฤทธิ์เหมือนสารเสพติด ซึ่งเด็กและเยาวชนมีการทดลองดื่มสารเหล่านี้เนื่องจากมองว่าเกิดจากส่วนผสมของสารที่ไม่เป็นอันตราย โดยที่ไม่ได้คำนึงว่ามีฤทธิ์เสพติด ปัญหาสารเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิต ส่งผลต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสมองโดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว กระทบต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี เป็นกลุ่มประชากรที่มีขนาดใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 32.44 ของประชากรทั้งหมดในปี 2557 (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2559) ซึ่งเป็นวัยที่ดำเนินชีวิตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ใฝ่หาความรู้ อยากเห็น อยากลองของใหม่ รักพวกพ้อง รักเพื่อน เชื่อเพื่อน และมองหาแบบอย่างเพื่อดำเนินรอยตามแบบ ทัศนคติที่ผิดๆเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดในวัยรุ่น เช่น การเสพไอซ์ ทำให้ผอม ผิวขาว การเสพยาบ้าทำให้เพิ่มความตื่นเต้นในการมีเพศสัมพันธ์ อ่านหนังสือได้นานขึ้น ทำให้มีกำลังวังชา ทำให้มีจิตใจแจ่มใส ทำให้มีสุขภาพดี ทำให้สติปัญญาดี สามารถรักษาโรคบางอย่างได้ จากทัศนคติดังกล่าวทำให้เกิดความรู้สึกอยากลองใช้ จนมีการติดสารเสพติดนั้นในที่สุด จากการลงศึกษาชุมชนบ้านคำกุง หมู่ที่ 5 ตำบลศรีสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งเกิดจากการขาดความรู้ที่ถูกต้อง เกิดจากการมีทัศนคติต่อเรื่องยาเสพติดที่ไม่ถูกต้อง นำไปสู่การมีพฤติกรรมการใช้สารเสพติด ทำให้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปขาดการยั้งคิดในการตัดสินใจในปัญหาต่างๆ และนำไปสู่การเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น การลักทรัพย์ การมั่วสุมยาเสพติด การทุบตีบุพการี และจิตเวชจากการใช้ยา ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองแสง จึงได้เล็งเห็นและตระหนักถึงปัญหายาเสพติดที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ จึงได้จัดทำโครงการล้อมบ้าน ล้อมรัก ขจัดภัยยาเสพติด เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วน ซึ่งจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนต่อไป  
วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้นำชุมชนให้เกิดการตื่นตัวในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้าง เครือข่ายการมีส่วนร่วมในการลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดภายในชุมชน 2. เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้เด็กและเยาวชน ได้มีความรู้ รับรู้ถึงความรุนแรงของพิษภัยยาเสพ ติด และมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อยาเสพติด 3. เพื่อให้ประชาชนวัยทำงาน มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อยาเสพติด ได้รับรู้ มีความเข้าใจ และรู้ถึงพิษภัย ของยาเสพติด 4. เพื่อให้กลุ่มผู้เสพติดได้รับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟูด้านยาเสพติด  
กลุ่มเป้าหมาย : กลุ่มวัยรุ่นอายุ 13-18 ปี และ กลุ่มวัยทำงาน อายุ 18-60 ปี  
เครื่องมือ :  
ขั้นตอนการดำเนินการ :  
     
ผลการศึกษา :  
ข้อเสนอแนะ :  
     
รางวัลที่ได้รับ : ยังไม่ได้รับรางวัล  
     
  ไม่มีเอกสารแนบ