|
ประเภทบทความ/งานวิจัย : CQI |
สถานะ : จัดทำโครงร่าง |
บทความ/วิจัย เรื่อง : การให้บริการแก่ผู้มารับบริการ ถูกตัว ถูกคน ถูกใจ |
ผู้แต่ง : |
งานเวชระเบียนผู้ป่วยนอก |
ปี : 2559 |
|
|
|
หลักการและเหตุผล : |
ช่วงปี ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘ พบปัญหาเรื่องการส่งตรวจรักษาผิดคนซึ่งแยกปัญหาได้ดังนี้
๑). ผู้มารับบริการนำสิทธิบัตรของผู้อื่นที่ไม่ใช่ของตนเองมาใช้โดยเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ทำให้มีการสวมสิทธิ์เกิดขึ้นพบในแรงงานต่างด้าว
๒). ผู้มารับบริการนำสิทธิบัตรของผู้อื่นที่ไม่ใช่ของตนเองโดยไม่ได้เจตนาเนื่องจากอ่านหนังสือไม่ออกหรือไม่สามารถอ่านข้อความได้ชัดเจนจะพบในผู้สูงอายุ
๓). ผู้มารับบริการเป็นเด็กโดยผู้ปกครองที่พามานั้นไม่ทราบข้อมูลของผู้มารับบริการได้ถูกต้องส่งผลทำให้แจ้งข้อมูลที่คลาดเคลื่อนแก่ผู้ปฏิบัติงาน พบในเด็กเล็กที่ผู้ปกครองฝากเลี้ยงไว้กับผู้สูงอายุ
๔). ผู้มารับบริการไม่สามารถแสดงหลักฐานใดใดที่จะแสดงถึงการระบุตัวตนของผู้มารับบริการได้ พบกรณีที่เอกสารอยู่กับพ่อแม่ แต่พ่อแม่ฝากบุตรหลานไว้กับผู้ที่เลี้ยงดู
จากปัญหาดังกล่าวที่ พบอุบัติการณ์ส่งบัตรตรวจผิดคนจากงานเวชระเบียนนั้น ทางงานเวชระเบียนผู้ป่วยและสถิติ (ห้องบัตร) ได้จัดการพัฒนาคุณภาพเพื่อป้องกันการส่งบัตรผิดตัวผิดคนและป้องกันการสวมสิทธิ์ โดยจัดทำตามขั้นตอน P D C A ดังนี้
|
|
วัตถุประสงค์ : |
เพื่อให้ไม่เกิดอุบัติการณ์ส่งบัตรตรวจผิด ไม่เกิน ๑๐ ครั้งต่อเดือน หรือ ไม่เกิน ร้อยละ ๐.๑ |
|
กลุ่มเป้าหมาย : |
- ผู้ตรวจสอบในแต่ละหน่วยงาน เช่น พนักงานในแผนกเวชระเบียนกับพยาบาล ในแผนกต่างๆ, เภสัชกร พนักงานเก็บเงิน เป็นต้น
- คณะกรรมการเวชระเบียน |
|
เครื่องมือ : |
แบบบันทึกข้อมูลและการตรวจข้อมูลผู้ป่วย |
|
ขั้นตอนการดำเนินการ : |
-ผู้มารับบริการไม่นำเอกสารที่ทางโรงพยาบาลนามนหรือเอกสารทางราชการมายืนยันสถานะบุคคลเพื่อขอรับบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลนามน
-ผู้มารับบริการนำเอกสารที่ทางโรงพยาบาลนามนหรือเอกสารทางราชการของคนอื่นมาใช้ยืนยันสถานะบุคคลเพื่อขอรับบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลนามนซึ่งพบว่าเอกสารเหล่านี้จะไม่เป็นเอกสารที่มีรูปปะหรือติดไว้ในเอกสาร เช่นนำ เฉพาะใบสูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรทอง เป็นต้น มายื่นรับบริการอย่างเดียว
๒. ประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานให้ทราบตรงกันถึงแนวทางการปฏิบัติ
- กำหนดผู้รับผิดชอบร่วม ผู้ตรวจสอบในแต่ละหน่วยงาน เช่น พนักงานในแผนกเวชระเบียนกับพยาบาล ในแผนกต่างๆ, เภสัชกร พนักงานเก็บเงิน เป็นต้น
- คณะกรรมการเวชระเบียนมีการประชุม ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานทุก ๓ เดือน และรายงาน ให้ผู้อำนวยการทราบ
๓. จัดทำบันทึกอุบัติการณ์และรวบรวมข้อมูล
๔. กำหนดเกณฑ์ตัวชี้วัด
- ไม่เกิน ๑๐ ครั้งต่อเดือน หรือ ไม่เกิน ร้อยละ ๐.๑
๕. กำหนดแนวทางการบันทึกข้อมูลและการตรวจข้อมูลผู้ป่วยการส่งตรวจให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบเอกสารผู้มารับบริการโดยละเอียดพร้อมกับซักประวัติ กรณีที่ไม่มีเอกสารให้ซักประวัติพร้อมระบุที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดจ่อได้ในขณะนั้น
- เจ้าหน้าที่ผู้มารับบริการต้องมีบัตรประชาชน สมาร์ทการ์ดเพื่อให้สามารถตรวจสอบสิทธิ์ ในโปรแกรม Hos XP ได้ทุกคน
- ชี้แจงและกำหนดแนวทางการปฏิบัติการให้ชัดเจนเช่น ในเวลาราชการให้ผู้มารับบริการตรวจสอบสถานะสิทธิ์ได้ที่งานประกันสุขภาพฯ กรณีนอกเวลาราชการให้เจ้าหน้าที่งานเวชระเบียนเป็นคนตรวจสอบสถานะสิทธิ์ทุกขั้นตอน
- บันทึกและเก็บข้อมูลอุบัติการณ์ทุกครั้ง
Do
๑. ตรวจสอบการบัตรเอกสารผู้ที่เข้ามารับบริการที่โรงพยาบาลนามนทุกครั้งโดยการซัก ประวัติโดยบัตรและเอกสารนั้นต้องเป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้หรือในกรณีที่เอกสารที่ระบุตัวตนไม่มีรูปให้ซักถามประวัติอย่างละเอียด เช่นที่อยู่ ชื่อบิดา มารดา วันเดือนปีเกิด เกิดที่โรงพยาบาลนามนหรือไม่
๒. ให้ผู้ให้ข้อมูลผู้มารับบริการเซ็นในใบกรอกประวัติ เพื่อเป็นการยืนยันความถูกต้องของข้อมูล
๓. ตรวจสอบสิทธิ์โดยละเอียดจากเวบไซด์ สปสช.
๔. ทำการสแกนรูปภาพ กรณี ผู้มารับบริการมีบัตรประชาชน สมาร์ท การ์ด เข้าไปในโปรแกรม HOS XP
๕. กรณีผู้มารับบริการไม่มีบัตรประชาชนสมาร์ท การ์ด ให้ ทางงานเวชระเบียนทำการถ่ายภาพผู้มารับบริการพร้อมชี้แจ้งประโยชน์ให้กับผู้มารับบริการทราบ ในการถ่ายภาพบันทึกไว้ในโปรแกรม HOS XP ทุกครั้ง
๖. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหลังจาการพิมพ์ OPD CARD ถ้าถูกต้องก็ให้บริการเพื่อทำการให้บริการด้านอื่นต่อไป
๗. เก็บตัวข้อมูลตามตัวชี้วัด
|
|
|
|
|
ผลการศึกษา : |
- วิเคราะห์ผลการปฏิบัติงานโดยแบบสอบถามความพึงพอใจ
- ติดตามผลการปฏิบัติงานตามตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ พบว่า
ตัวชี้วัด เป้าหมาย ก่อนโครงการ หลังโครงการ
- จำนวนส่งผู้ป่วยผิดคน เฉลี่ย ๑๐ คน/เดือน เฉลี่ย ๑๒ฉบับ เฉลี่ย ๔.๕ ฉบับ
(หมายเหตุ : งานเวชระเบียนผู้ป่วยนอก (ห้องบัตร)ได้เก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ ๑ตุลาคม๒๕๕๘–๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙) |
|
ข้อเสนอแนะ : |
– จากการปฏิบัติงานตามแนวทางที่วางไว้ปัญหาลดลงไปมากแต่ข้อมูลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
มากนักในช่วงเวรบ่ายและดึกผู้มารับบริการไม่ค่อยพบเอกสารมารับบริการกับโรงพยาบาลนามนทำให้ต้องซักประวัติ และใช้เวลานานในการตรวจสอบ อีกทั้งญาติที่เป็นผู้พาผู้มารับบริการที่เป็นเด็กมักจะให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนเช่น ให้ข้อมูลผู้มารับบริการเป็นพี่กับผู้มารับบริการเป็นน้องสลับกันทำให้ข้อมูลเกิดการผิดพลาดได้ทำให้ต้องทำจัดข้อมูลใหม่ส่งผลทำให้เสียเวลา เสียทรัพยากรด้วย |
|
|
|
|
รางวัลที่ได้รับ : |
ยังไม่ได้รับรางวัล |
|
|
|
|
|
ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับเต็ม (Fulltext)
|
|
|
|
|