ประเภทบทความ/งานวิจัย : R2R สถานะ : จัดทำโครงร่าง
   บทความ/วิจัย เรื่อง : การยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟันในฟันกรามซี่ที่ 1 และการเกิดฟันผุ ที่ระยะเวลา 6, 18 และ30 เดือน ของเด็กนักเรียนประถมศึกษาโรงเรียนในเขตบริการโรงพยาบาลนาคู อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ปี 2560
ผู้แต่ง : วัชรากร เพิ่มขึ้น ปี : 2560
     
หลักการและเหตุผล : โรคฟันผุเป็นปัญหาในช่องปากสำคัญมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเด็กก่อนวัยเรียนและเด็กวัยเรียน โดยจากผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 7 พ.ศ. 2555 โดยกรมอนามัย ได้ทำการสำรวจกลุ่มเด็กวัยเรียนพบว่า มีความชุกของผู้ที่เป็นโรคฟันผุร้อยละ 52.3 ค่าเฉลี่ยฟันผุ ถอน อุด (DMFT) เป็น 1.3 ซี่ต่อคน เหงือกอักเสบ ร้อยละ 50.3 ในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ที่เป็นโรคฟันผุร้อยละ 56.9 และมีค่าเฉลี่ยผุ ถอน อุด เท่ากับ 1.88 ซี่ต่อคน การเคลือบหลุมร่องฟันมีผลในการป้องกันฟันผุ โดยเฉพาะการยับยั้งการลุกลามของฟันผุระยะเริ่มแรกเนื่องจากการเคลือบหลุมร่องฟันมีผลในการลดจำนวนแบคทีเรียในรอยผุ (Oong, Griffn, Kohn,Gooch & Caufeld, 2008) โดยป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียสัมผัสกับอาหารและน้ำทำให้แบคทีเรียตายและลดจำนวนลงจนหยุดการลุกลามของฟันผุได้ ประสิทธิผลในการป้องกันฟันผุของสารเคลือบหลุมร่องฟันแปรผันตามการยึดเกาะกับผิวฟัน ถ้ายังคงอยู่สมบูรณ์จะมีผลในการป้องกันฟันผุร้อยละ 100 (Ripa, 1993; National Institutes of Health, 1984) แต่ในขณะที่การป้องกันฟันผุของฟันที่มีการหลุดของสารเคลือบหลุมร่องฟันบางส่วนหรือหลุดหายไปทั้งหมดไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน บางการศึกษาพบว่าฟันที่มีการยึดอยู่ของสารเคลือบหลุมร่องฟันบางส่วนมีการเกิดฟันผุน้อยกว่าฟันที่มีการหลุดหมดของสารเคลือบหลุมร่องฟัน (National Institutes of Health, 1984; Ismail & Gagnon, 1995) โรงพยาบาลนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ มีการดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากในเด็กนักเรียน โดยออกตรวจสุขภาพช่องปากของนักเรียน และนัดนักเรียนชั้น ป. 1 ที่มีฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 ขึ้นเต็มซี่มารับการเคลือบหลุมร่องฟันเพื่อป้องกันฟันผุ โดยทันตบุคลากรที่โรงพยาบาลนาคู แต่ยังไม่มีการศึกษาประสิทธิผลของการยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟันในโครงการดังกล่าว ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาการยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟันในฟันกรามซี่ที่ 1 และการเกิดฟันผุ ที่ระยะเวลา 6, 18 และ30 เดือน เพื่อพัฒนาและหามาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการเคลือบหลุมร่องฟันต่อไป  
วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อศึกษาการยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟันในฟันกรามซี่ที่ 1 ของนักเรียนโรงของเด็กนักเรียนประถมศึกษา ที่ระยะเวลา 6, 18 และ30 เดือน 2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์การยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟันในฟันกรามที่ 1 ของนักเรียนโรงของเด็กนักเรียนประถมศึกษากับการเกิดฟันผุ ที่ระยะเวลา 6, 18 และ30 เดือน  
กลุ่มเป้าหมาย : นักเรียนที่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันโดยทันตบุคลากร  
เครื่องมือ : 1. แบบบันทึกการตรวจช่องปาก ซึ่งปรับปรุงมาจากแบบรายงานการตรวจสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นการตรวจการยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟัน ที่ฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 และสภาวะโรคฟันผุ - แบบบันทึกการตรวจการยึดติดของสารเคลือบหลุมร่องฟัน - แบบบันทึกการตรวจหาฟันผุ ใช้เกณฑ์ของ WHO Oral Health Survey 2. อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจช่องปาก เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจ คือ Mouth mirror และ Explorer  
ขั้นตอนการดำเนินการ : 1. ผู้วิจัยทำหนังสือขออนุญาตในการทำวิจัยและเก็บข้อมูล พร้อมเอกสารชี้แจงวัตถุประสงค์ของการวิจัยไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน 2. ขออนุญาตผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน เพื่อรับการตรวจช่องปาก 3. ตรวจช่องปากนักเรียนที่ได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครอง 4. นำข้อมูลมารวบรวมและ วิเคราะห์ 5. สรุปผล เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนางาน  
     
ผลการศึกษา :  
ข้อเสนอแนะ :  
     
รางวัลที่ได้รับ : ยังไม่ได้รับรางวัล  
     
  ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับโครงร่าง