ประเภทบทความ/งานวิจัย : วิจัย สถานะ : จัดทำรายงาน
   บทความ/วิจัย เรื่อง : ผลการเสริมสร้างพลังอำนาจด้วยยา ๙ เม็ดที่ประยุกต์การแพทย์วิถีธรรมต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ตำบลไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
ผู้แต่ง : นายสุวิทย์ ทบแก้ว สัดส่วน ร้อยละ 50 นายธนบูลย์ คนหาญ สัดส่วน ร้อยละ 25 นางวิภาพร จำเริญควร สัดส่วน ร้อยละ 25 ปี : 2560
     
หลักการและเหตุผล : จากสถิติการคัดกรองประชาชนกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไปในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองโพน 3 ปี ย้อนหลัง ปี 2557,2558 และ 2559 พบว่ามีกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานตามลำดับดังนี้ 138,139 และ 150 ราย และพบว่ากลุ่มเสี่ยงกลายเป็นกลุ่มป่วยเบาหวานรายใหม่ดังนี้ 5,6 และ 8 ราย ตามลำดับ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปีและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ดังนั้นผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะนำรูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจของกิบสันและเทคนิค 9 ข้อ(ยา ๙ เม็ด)ที่ประยุกต์การแพทย์วิถีธรรมของ หมอเขียว ใจเพชร กล้าจน เพื่อศึกษา ผลการเสริมสร้างพลังอำนาจด้วยยา ๙ เม็ดที่ประยุกต์การแพทย์วิถีธรรมต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นการทดลองใช้รูปแบบเพื่อหาวิธีทำให้กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานมีการดูแลสุขภาพของตนเองที่ดีขึ้นและไม่ป่วยเป็นโรคเบาหวานต่อไป  
วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานที่ใช้การเสริมสร้างพลังอำนาจด้วยยา ๙ เม็ดที่ประยุกต์การแพทย์วิถีธรรม 2. เพื่อศึกษาระดับน้ำตาลในเลือดของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานที่ใช้การเสริมสร้างพลังอำนาจด้วยยา ๙ เม็ดที่ประยุกต์การแพทย์วิถีธรรม  
กลุ่มเป้าหมาย : ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ในเขตพื้นที่ตำบลไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามคุณสมบัติที่กำหนดดังต่อไปนี้ คือ 1.เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับการเจาะเลือดมีค่าระดับน้ำตาลในกระแสเลือดอยู่ระหว่าง 100 - 125 มก./ดล.จำนวน 200 ราย จาการคัดกรองตามแบบคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปปีงบประมาณ 2560 2.มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป เพศหญิงและเพศชาย อาศัยอยู่ในเขตตำบลไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ (เป็นอายุในวัยผู้ใหญ่พัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยต่างๆ มีภาวะการตัดสินใจ การปรับตัว และแก้ปัญหาชีวิตได้ดีด้วยตนเอง) (สมจิต หนุเจริญกุล,2540) 3.ไม่มีภาวะที่เป็นอุปสรรค์ต่อการเข้าร่วมการศึกษาวิจัยและการดูแลตนเองในชีวิตประจำวัน เช่น เป็นอัมพาต ถูกตัดแขน-ขา ความจำเสื่อมเป็นต้น 4.มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ถามตอบรู้เรื่อง ไม่มีปัญหาการได้ยิน การมองเห็น และการพูด สามารถสื่อสารได้ดี เข้าใจและสามารถพูด อ่าน เขียนภาษาไทยได้ 5.เป็นผู้ที่เต็มใจ และยินดีให้ความร่วมมือในการศึกษาครั้งนี้  
เครื่องมือ :  
ขั้นตอนการดำเนินการ : กลุ่มเสี่ยงที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด > กลุ่มทดลอง 200 คน > ผู้วิจัยประเมินพฤติกรรมการดูแลตนเองและตรวจค่าระดับน้ำตาลในกระแสเลือด (Pretest) > ขั้นตอนที่ 1 กิจกรรมเสริมสร้างพลังอำนาจที่ 1,2,3 สัปดาห์แรกใช้เวลา 8 ชั่วโมง > ขั้นตอนที่ 2 กิจกรรมเสริมสร้างพลังอำนาจที่ 4 สัปดาห์ที่ 6 ใช้เวลา 3 ชั่วโมง > ขั้นตอนที่ 3 กิจกรรมเสริมสร้างพลังอำนาจที่ 4 สัปดาห์ที่12ใช้เวลา 3 ชั่วโมง > ผู้วิจัยประเมินพฤติกรรมการดูแลตนเองและตรวจค่าระดับน้ำตาลในกระแสเลือด (Postest)  
     
ผลการศึกษา :  
ข้อเสนอแนะ :  
     
รางวัลที่ได้รับ : ยังไม่ได้รับรางวัล  
     
  ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับเต็ม (Fulltext)