ประเภทบทความ/งานวิจัย : R2R สถานะ : จัดทำรายงาน
   บทความ/วิจัย เรื่อง : ถอดบทเรียนการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น : กรณีกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลสระพังทอง
ผู้แต่ง : อาทิยาพร โพธิสม และคณะ ปี : 2560
     
หลักการและเหตุผล : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ดำเนินงานให้มีกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นเมื่อปี พ.ศ. 2549 เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 มาตรา 47 ที่มุ่งเน้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และฟื้นฟูสมรรถภาพให้แก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการสาธารณสุขได้ทั่วถึงและมากขึ้น สนับสนุนให้ประชาชนได้แสดงบทบาทในการในการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ และส่งเสริมให้บุคลากรด้านสาธารณสุขในพื้นที่ได้แสดงบทบาทในการสนับสนุนประชาชนในการดูแลสุขภาพตนเอง ต่อมาปี พ.ศ.2552 ได้มีการขยายการดำเนินงานให้มีกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาลตำบลทุกแห่งทั่วประเทศ กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ (Public policy) ที่มุ่งหวังในการตอบสนองความต้องการในด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งถ้าท้องถิ่นและชุมชนมีความตระหนัก และมีบทบาทร่วมในการจัดการกับปัญหาสุขภาพของชุมชนมากขึ้น จะส่งผลให้อำเภอเขาวง เป็นชุมชนชุมชนแห่งความสุข มีวัฒนธรรมสุขภาพ และวิถีสุขภาวะที่เข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งทำให้ท้องถิ่นและชุมชนจะเป็นศูนย์รวมของการขับเคลื่อนกิจกรรมสุขภาพ และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ต่างๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนได้มากขึ้น ที่ผ่านมากองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นในพื้นที่ยังขาดการถอดบทเรียนในการดำเนินงานในภาพรวม ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการศึกษาถอดบทเรียนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการขององค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาลตำบลที่จะดำเนินการต่อไปในอนาคต  
วัตถุประสงค์ : 6.1 เพื่อสังเคราะห์ และถอดบทเรียนสถานการณ์ กระบวนการพัฒนา รูปแบบและผลการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น 6.2 เพื่อสรุปข้อเสนอแนะ บทเรียน และแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น  
กลุ่มเป้าหมาย : บุคลากรขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น, คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น, บุคลากรสาธารณสุข, หัวหน้าโครงการ, และประชาชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการ  
เครื่องมือ : รายงานเอกสารผลงาน, แบบสำรวจ/แบบสอบถาม, การสัมภาษณ์เจาะลึก, และสนทนากลุ่ม  
ขั้นตอนการดำเนินการ : 9.1 เตรียมทีมวิจัย ประชุมชี้แจง 9.2 ออกแบบเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล และวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล 9.3 สำรวจเก็บข้อมูลทั้งจากเอกสาร และบุคลากรกลุ่มเป้าหมายสัมภาษณ์เจาะลึก, และสนทนากลุ่มถอดบทเรียน 9.4 ประชุมสังเคราะห์ถอดบทเรียน และข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น 9.5 เขียนรายงานผลการศึกษา  
     
ผลการศึกษา : กองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลสระพังทองเป็นกองทุนขนาดกลาง เริ่มจัดตั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นเมื่อปี 2552 โดยมีคณะกรรมการบริหารกองทุนและที่ปรึกษากองทุนรวม 17 คน โดยรับผิดชอบมีประชาชนทั้งสิ้น 2,878 คน ใน 7 หมู่บ้าน พบว่ากองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลสระพังทองได้รับเงินสบทบจากสำนักงานกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)แนวโน้มคงที่ อยู่ระหว่าง 134,550 บาท เทศบาลตำบลสระพังทองสมทบเงินเข้ากองทุนหลักประกันสุขภาพ อัตราร้อยละ 60 ของเงินที่ได้รับการจัดสรรจาก สปสช. โดยกองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลสระพังทองมีเงินในการบริหารกองทุนในปี 2560 มีเงินบริหารกองทุน 215,565 บาท เฉลี่ย 74.9 บาทต่อหัวประชากร พบว่ากองทุนหลักประกันสุขภาพเทศบาลตำบลสระพังทองสนับสนุนกิจกรรมประเภทที่ 2 การสนับสนุนกลุ่มหรือองค์กรประชาชนหรือหน่วยงานอื่นในพื้นที่มากที่สุด มีจำนวนโครงการ ร้อยละ 60.0-69.2 ใช้งบประมาณกองทุนคิดเป็นร้อยละ 56.1-66.0, กิจกรรมประเภทที่ 1 การสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุข ปี มีโครงการ ร้อยละ 7.1-13.3 ใช้งบประมาณกองทุนคิดเป็นร้อยละ 9.7-18.0 กิจกรรมประเภทที่ 3 การสนับสนุนศูนย์เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการในชุมชน มีโครงการร้อยละ 13.3-15.4 ใช้งบประมาณกองทุนคิดเป็นร้อยละ10.0-16.1 กิจกรรมประเภทที่ 4 การบริหารจัดการกองทุนและพัฒนาระบบบริหารจัดการ ใช้งบประมาณกองทุนคิดเป็นร้อยละ 9.8-14.4, กิจกรรมประเภทที่ 5 สนับสนุนกรณีเกิดโรคระบาดและภัยพิบัติ สัดส่วนงบประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาจำแนกตามกลุ่มเป้าหมายเรียงจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ กลุ่มผู้สูงอายุ, กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง,กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเสี่ยงเสี่ยง, กลุ่มเด็กวัยเรียน/เยาวชน, กลุ่มเด็กเล็ก/เด็กก่อนวัยเรียน, กลุ่มวัยทำงาน,กลุ่มอื่นๆ, กลุ่มหญิงตั้งครรภ์/หญิงหลังคลอด, และกลุ่มผู้พิการ/ทุพพลภาพ คิดเป็นร้อยละ26.2, 20.6, 18.7, 11.2, 11.2, 5.6,2.7,1.9 และ1.9 ตามลำดับ ผลการประเมินศักยภาพกองทุนได้มีแนวโน้มค่าคะแนนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะปี 2560 ได้ 92 คะแนน อยู่ในระดับ A+ (ศักยภาพสูงและสามารถเป็นศูนย์เรียนรู้)  
ข้อเสนอแนะ : -  
     
รางวัลที่ได้รับ : ยังไม่ได้รับรางวัล  
     
  ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับเต็ม (Fulltext)