ประเภทบทความ/งานวิจัย : R2R สถานะ : จัดทำรายงาน
   บทความ/วิจัย เรื่อง : โครงการพัฒนาแบบแผนและรูปแบบการดำรงชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
ผู้แต่ง : รพ.สต.โนนชัย ปี : 2562
     
หลักการและเหตุผล : จากสถานการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และการเติบโตและความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ส่งผลกระทบตรงสุขภาพของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตที่ยืนยาวของประชาชน รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของมนุษย์ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงปัจจัยทางพฤติกรรม อาทิ ปัจจัยทางสังคม ด้านเศรษฐกิจ และด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลให้พฤติกรรมของมนุษย์ เช่น การบริโภค การออกกำลังกาย ภาวะสุขภาพจิต และพฤติกรรมการทำงาน ได้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จากภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของปัจจัยทางพฤติกรรมได้ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพมากมาย อาทิกลุ่มโรคไม่ติดต่อมีแนวโน้มสูงขึ้น และเพิ่มทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ปัญหาโรคเบาหวานและโรคที่มีสาเหตุมาจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานนับว่าเป้นปัญหาที่สำคัญที่สุดปัญหาหนึ่งในกลุ่มเรื้อรัง ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิต และเกิดให้เกิดโรคที่เป็นภาวะแทรกซ้อนมากมาย รวมทั้งส่งผลกระทบต่อสังคม และเศรษฐกิจของประเทศในด้านงบประมาณเป็นอย่างมากเพื่อใช้ในการรักษาโรค ดังกล่าว ปี 2562 ตำบลขมิ้นเป็นตำบลที่ติดอันดับ 1ใน5 ของอำเภอเมืองที่มีอัตราป่วย/ตายด้วยโรคเบาหวานมากที่สุด โดย อัตราตายด้วยโรคแทรกซ้อนของโรคเบาหวานมากกว่า 301.27 รายต่อแสนประชากร ปัจจุบันในกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อ โรคเบาหวานในเขตพื้นที่ตำบลขมิ้น จำนวน 181 ราย คิดอัตราป่วย เป็น 1620.15 รายต่อแสนประชากร และเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของโรคไม่ติดต่อที่พบบ่อย และ จากการตรวจคัดกรองประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไปในชุมชน ในปี 2562 พบว่า ยังมีผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงออกมากมายที่แฝงตัวอยู่ในชุมชน และยังไม่ได้รับการรักษา และปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเหมาะสม และจากการออกตรวจเยี่ยมและให้คำแนะนำผู้ป่วยเรื้อรังในปี 2562 พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ มีพฤติกกรมการกินยา ไม่ต่อเนื่อง การทำงานที่เสี่ยง การบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง รวมไปถึงการขาดการออกกำลังกาย อีกทั้งมีภาวะเครียด อันเนื่องมาจากปัญหาของครอบครัว ซึ่งส่งผลให้การบำบัดรักษาขาดประสิทธิภาพ ระดับน้ำตาลอยู่ในระดับที่สูง การแก้ปัญหาโรคเบาหวาน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการปฏิบัติตนเพื่อกำหนดเป็นพฤติกรรมและการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชน จึงจะเกิดผลดีต่อการควบคุมและป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ การจะทำให้เกิดความร่วมมือกันทั้งชุมชน ดังนั้น การพัฒนารูปแบบแบบแผนชีวิตของผู้ป่วยเบาหวาน และกลุ่มเสี่ยง จึงเป็น การปฏิบัติการเพื่อให้เกิดการพัฒนาโปรแกรมการปฏิบัติการเพื่อกำหนดพฤติกรรมการมีส่วนร่วมที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาแบบองค์รวม มีการบูรณาการให้ครบในทุกๆด้าน และผู้ป่วย/กลุ่มเสี่ยงเบาหวานเป็นจุดศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาในรูปแบบการร่วมกันในการทำงาน (Collaboration) ซึ่งจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้านการทำงาน การบริโภค การออกกำลังกาย การคลายเครียด และพฤติกรรมการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง เหมาะสม โดยไม่ขัดกับวัฒนธรรมความเชื่อ และบริบทของสังคมของผู้ป่วยเบาหวาน  
วัตถุประสงค์ : 3.1 เพื่อพัฒนาพฤติกรรมที่สำคัญของผู้ป่วยเบาหวานในด้านต่างๆ ได้แก่ พฤติกรรมการทำงาน/ประกอบอาชีพ การบริโภค การออกกำลังกาย พฤติกรรมด้านอารมย์และความเครียดการใช้เวลาว่าง และพฤติกรรมการบำบัดรักษาของผู้ป่วยเบาหวาน 3.2.พัฒนารูปแบบ และ แบบแผนการดำรงชีวิตของผู้ป่วยเบาหวานเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ที่สอดคล้องกับค่านิยม ความเชื่อ และวิถีชีวิตของชุมชน  
กลุ่มเป้าหมาย : ประชากรกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ป่วยเบาหวานในหมู่บ้านที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ป่วยในเขตรับผิดชอบของ 1.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองแวงใต้ จำนวน 96 ราย 2.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโนนชัย จำนวน 85 ราย รวมทั้งสิ้น 181 ราย พื้นที่เป้าหมาย หมู่บ้านในพื้นที่ตำบลขมิ้น รวมทั้งสิ้น 6 หมู่บ้าน  
เครื่องมือ :  
ขั้นตอนการดำเนินการ : ขั้นตอนการเตรียมการ 1. ประชุม/ชี้แจง และประชาสัมพันธ์แผนงานงาน/โครงการแก่ สภาองค์การบริหารส่วนตำบลขมิ้น ที่ประชุมกำนัน / ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ ชุมชน 2. จัดทำหลักสูตรการฝึกอบรม/ประสานวิทยากรและสถานในการฝึกอบรม 3.จัดเตรียม ประสานกลุ่มเป้าหมายในการฝึกอบรม ขั้นตอนการดำเนินการ 1.ดำเนินการฝึกอบรม หลักสูตร 4 วัน แบ่งออกเป็น 4 รุ่นๆละ 40-50 คน โดยแบ่งออกเป็นฐานความรู้ 4 ฐาน - ฐานที่ 1 อาหารและยาสมุนไพรฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยเบาหวาน -ฐานที่ 2 การออกกำลังกายและการยึดเหยียดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน -ฐานที่ 3 สมาธิบำบัด -ฐาน 4 การกินยาและการดูแลตนเองในการลดภาวะแทรกซ้อน 2.ออกติดตามและสนับสนุนวิชาการในชุมชน 2 ครั้งต่อปี ขั้นประเมินผลการ 1. ประเมินผลการก่อน-หลังฝึกอบรม 2. ประเมินพฤติกรรมสุขภาพปกติหลังอบรม 6 เดือน 5.ระยะเวลาดำเนินการ ดำเนินการในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม - พฤษภาคม 2562  
     
ผลการศึกษา :  
ข้อเสนอแนะ :  
     
รางวัลที่ได้รับ : ยังไม่ได้รับรางวัล  
     
  ไม่มีเอกสารแนบ