หลักการและเหตุผล : |
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุข ที่ส่งผลกระทบต่อ
สุขภาพทั้งของมารดาและทารก อุบัติการณ์ของการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดทั่วโลก พบได้ ร้อยละ 7-12 ของการตั้งครรภ์ (Goldenberg, 2002) ขณะที่ประเทศไทยพบอุบัติการณ์ของการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดประมาณร้อยละ 5-10 ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด (พัญญู พันธ์บูรณะ, 2555) ซึ่งถ้าหากไม่สามารถยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอดได้ทำให้ส่งผลกระทบคือการคลอดก่อนกำหนดตามมา ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจขององค์การอนามัยโลกในปี 2007 พบอุบัติการณ์ของการคลอดก่อนกำหนดร้อยละ 9.6 ของการคลอดทั้งหมด (World Health Organization [WHO] 2007 cited in Simmons, Rubens, Darmstadt & Gravett, 2010) สำหรับประเทศไทยพบอัตราการคลอดก่อนกำหนดร้อยละ 8-12 ของการคลอดทั้งหมด (สายฝน ชวาลไพบูลย์ และ
สุจินต์ กนกพงษ์ศักดิ์, 2554) ผลกระทบโดยตรงของการคลอดก่อนกำหนดต่อทารก คือ การเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดก่อนกำหนด เช่น ภาวะขาดออกซิเจน ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย โรคระบบทางเดินหายใจ ภาวะติดเชื้อในร่างกายได้ง่าย (เยื้อน ตันนิรันดร, 2555) ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้เป็นสาเหตุให้ทารกเสียชีวิตถึงร้อยละ75 (วรพงศ์ ภู่พงศ์, 2555) สำหรับทารกที่รอดชีวิตยังพบผลกระทบระยะยาวเกิดภาวะทุพพลภาพและการเจ็บป่วยเรื้อรังตามมา (สายฝน ชวาลไพบูลย์, 2553; Petraglia & Visser, 2009)
การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดพบว่ามีความสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ได้แก่ปัจจัยด้านภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เลือดออกทางช่องคลอด การติดเชื้อในร่างกาย และภาวะโลหิตจาง เป็นต้น ปัจจัยเสี่ยงทางด้านจิตใจ เช่น มีภาวะเครียดจากภาวะเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงบทบาทหน้าที่ในครอบครัว ความวิตกกังวลกับแผนการรักษา ภาวะเจ็บป่วย และสุขภาพทารกในครรภ์ (Choijorhor et al., 2009; Wong, Chan, Chow, Chong, Chung, Wai-Man et al., 2010) รวมทั้งปัจจัยเสี่ยง จากการปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องตามแนวทางการดูแลรักษา ซึ่งอาจจะเกิดจากการขาดการรับรู้เกี่ยวกับการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด รวมทั้งขาดแหล่งสนับสนุนทางสังคม เช่น ขาดคนดูแลทำให้การเข้าถึงบริการช้าจึงไม่สามารถยับยั้งการคลอดได้ ส่งผลให้คลอดก่อนกำหนดตามมา (Stringer, Gennaro, Deatrick &
Found, 2008)
โรงพยาบาลสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์พบอัตราการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ในปี พ.ศ. 2558-2560 ร้อยละ 13.23, 12.01 และ 12.83 ตามลำดับ และอัตราการคลอดก่อนกำหนด ร้อยละ 7.35, 7.97 และ7.21 ตามลำดับ ซึ่งสาเหตุพบว่าหนึ่งเกิดจากภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์ แบบแผนในการดำเนินชีวิตประจำวัน และไม่มาฝากครรภ์ตามนัด และเมื่อมีอาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด คิดว่ายังไม่ครบกำหนดคลอดรอให้เจ็บครรภ์ถี่ และมีน้ำเดินก่อนถึงจะมาโรงพยาบาล ทำให้เมื่อถึงโรงพยาบาลไม่สามารถยับยั้งการเจ็บครรภ์คลอดได้ ส่งผลให้คลอดก่อนกำหนดตามมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หญิงเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดบางส่วนยังขาดความรู้ในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดเมื่อกลับไปอยู่ที่บ้าน
เมื่อทบทวนแนวทางการป้องกันการเจ็บครรภ์คลอก่อนกำหนด พบว่ายังขาดการประเมินปัจจัยเสี่ยงของการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด และแนวทางการให้ความรู้ที่ชัดเจน ดังนั้นงานงานอนามัยและเด็กจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาแนวทางการป้องกันการคลอดก่อนกำหนดที่มีการวางแผนการดูแลที่ชัดเจน
|
|