|
ประเภทบทความ/งานวิจัย : CQI |
สถานะ : จัดทำโครงร่าง |
บทความ/วิจัย เรื่อง : การพัฒนาแนวทางการดูแลหญิงตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอด |
ผู้แต่ง : |
นางวรนุช บุญสอน |
ปี : 2559 |
|
|
|
หลักการและเหตุผล : |
ภาวะตกเลือดหลังคลอดนับว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรมที่สำคัญ เป็นสาเหตุในการเสียชีวิตของมารดาหลังคลอด งานห้องคลอดโรงพยาบาลสมเด็จมีการพัฒนาระบบในการดูแลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดทางช่องคลอดมาอย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงแบบประเมินภาวะเสี่ยงต่อตกเลือดหลังคลอดในหญิงตั้งครรภ์ทุกราย มีแนวทางในการเตรียมเลือดก่อนคลอด มีแนวทางการรายงานแพทย์ในระยะที่สองของการคลอดที่เร็วขึ้น มีแนวทางในการประเมินระดับยอดมดลูก เพื่อเฝ้าระวังทารกตัวโตที่ทำให้คลอดยาก ทำให้มีการฉีกขาดช่องทางคลอด ทำให้อัตราการเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด มีการใช้ AMTSL ในระยะที่ 3 ของการคลอด มีแนวทางให้ออกซิโตซินทางหลอดเลือดดำในมารดาหลังคลอดทุกราย ถึง 12 ชั่วโมงหลังคลอด แต่ยังพบอัตราการตกเลือดหลังคลอด ในปี 2556-2557 ร้อยละ 1.39 และ 3.29 ตามลำดับ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
โดยพบเป็นประเด็นสำคัญคือ ผู้คลอดตกเลือดหลังคลอดแล้วการเกิดภาวะ Severe PPH และ ภาวะ Shock เนื่องจาก การประเมินการสูญเสียเลือดไม่ถูกต้องไม่มีเครื่องมือในการประเมิน ส่งผลให้การวินิจฉัยภาวะตกเลือดล่าช้า การดูแลล่าช้า ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมากขึ้น ทีมงานจึงมีการพัฒนากระบวนการดูแล เพื่อให้มีประสิทธิภาพดังนี้
|
|
วัตถุประสงค์ : |
เพื่อป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอด |
|
กลุ่มเป้าหมาย : |
ผู้ป่วยคลอดในโรงพยาบาลสมเด็จ ระหว่าง ตุลาคม 2555 – พฤษภาคม 2559
(4 ปีงบประมาณ)
|
|
เครื่องมือ : |
แบบฟอร์ม Intrapartum Risk Scale
แบบประเมินสภาพเมื่อแรกรับ (Admission note)
แนวทางในการประเมิน Blood loss
มีแนวทางในการ Early management
|
|
ขั้นตอนการดำเนินการ : |
วางระบบงานโดยหญิงตั้งครรภ์ทุกรายได้รับการประเมินปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด และมีการสื่อสานในหน่วยงาน |
|
|
|
|
ผลการศึกษา : |
การพัฒนาแนวทางการดูแลโดยการปรับปรุงแนวทางการประเมินภาวะเสี่ยง กำหนดแนวทางการประเมินการสูญเสียเลือด การดูแลและการกำหนด Early warning sign แนวทางการ Early management การดูแลในระยะ 2 ชั่วโมงหลังคลอด และมีการใช้ Care map ในการดูแล
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
หญิงตั้งครรภ์ทุกรายได้รับการประเมินปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด และมีการสื่อสานในหน่วยงาน โดยใช้สัญลักษณ์”Risk to PPH”
ปรับปรุงแบบฟอร์ม Intrapartum Risk Scale แบบประเมินสภาพเมื่อแรกรับ (Admission note) เมื่อพบภาวะเสี่ยงให้รายงานแพทย์ทันที
การกำหนด Early Warning Sign
มีแนวทางในการประเมิน Blood loss
มีแนวทางในการ Early management
การพัฒนาคู่มือประเมินสมรรถนะของบุคลากรในการดูแลหญิงตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยง การทำคลอด และการประเมินการฉีกขาดช่องทางคลอด
การปรับปรุง CPG ในการดูแล /มีการใช้ PPH Order set เมื่อมีภาวะเสี่ยงต่อตกเลือดหลังคลอด
กำหนดทีมในการดูแลเมื่อมีภาวะตกเลือดหลังคลอด
|
|
ข้อเสนอแนะ : |
การวางระบบการดูแลหญิงตั้งครรภ์กลุ่มเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ในระยะฝากครรภ์
การติดตามให้หน่วยงานปฏิบัติตามแนวทาง
การทบทวนทุกครั้งเมื่อเกิดอุบัติการณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและโอกาสพัฒนา และการมองอย่างเป็นระบบและการทำงานเป็นทีมสหวิชาชีพ จะทำให้แก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม
|
|
|
|
|
รางวัลที่ได้รับ : |
ยังไม่ได้รับรางวัล |
|
|
|
|
|
ไม่มีเอกสารแนบ
|
|
|
|
|