ประเภทบทความ/งานวิจัย : CQI สถานะ : จัดทำรายงาน
   บทความ/วิจัย เรื่อง : การให้ยาและการดูแลผู้ป่วยSTEMI ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด(SK)
ผู้แต่ง : นางสาว ขนิษฐา ไชยทองศรี ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปี : 2559
     
หลักการและเหตุผล : ภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันชนิด STEMI จะเกิดการตายของกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป ดังนั้นการรักษาที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบันคือ การให้ยาละลายลิ่มเลือดเพื่อเปิดหลอดเลือด การรักษาที่รวดเร็วภายใน 12 ชั่วโมง แรกหลังมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้ ฉะนั้นการรักษาผู้ป่วยในกลุ่มนี้ตามบริบทของโรงพยาบาลห้วยผึ้ง คือ การให้ยาละลายลิ่มเลือด และส่งต่อผู้ป่วยไปยัง รพ.ขอนแก่น ปี 2559 มีการให้ยาละลายลิ่มเลือด ในผู้ป่วย STEMI พบว่า มีรายงานอุบัติการณ์ของหน่วยงาน คือ 1. ซักประวัติอะไรบ้างก่อนให้ยา 2. การบริหารยา ได้แก่ การเตรียมและผสมยา , ขนาดยาที่ให้ และการให้ยา 3.อาการผู้ป่วยขณะให้ และหลังให้ยาต้องเฝ้าระวังอะไรบ้าง ทีม PCT จึงวางแผนดำเนินงานการจัดทำแนวทาง การใช้ยาละลายลิ่มเลือดและการดูแลผู้ป่วยขณะให้ยา เพื่อให้ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจและปฏิบัติได้ถูกต้อง.  
วัตถุประสงค์ : -เพื่อให้พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บริหารจัดการยาและดูแลผู้ป่วยขณะให้ยาและหลังให้ยาได้ถูกต้อง  
กลุ่มเป้าหมาย : เจ้าหน้าที่บริหารยา และดูแลผู้ป่วยSTEMI ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือดได้  
เครื่องมือ : CPG ลำดับขั้นตอนการปฎิบัตงานสำหรับเจ้าหน้าที่บริหารยา และดูแลผู้ป่วยSTEMI ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือดได้  
ขั้นตอนการดำเนินการ : -ที่ ER พยาบาลER ทำEKG >>>>>>>>รายงานแพทย์ -ผลEKG >>>>>>>>STEMI>>>>>>>>ให้ยา SK แนวทางปฏิบัติในการให้ยา SK แพทย์ 1. ประเมินผู้ป่วยก่อนให้ยาSK ตามแบบประเมินผู้ป่วย 2. ให้ข้อมูลผู้ป่วยและญาติเกี่ยวกับความจำเป็นในการให้ยาละลายลิ่มเลือด อธิบายถึงผลดีและ ภาวะแทรกซ้อนของยาSK. พยาบาล 1.ให้ผู้ป่วยและญาติเซ็นใบยินยอมการได้รับยาละลายลิ่มเลือด ในแบบประเมินก่อนให้ยาละลายลิ่ม เลือด 2. ให้ยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยที่ไม่มีข้อห้ามในการให้ยา ขนาด 1.5 ล้านยูนิต ในเวลา 60 นาที โดยเตรียมและผสมยาตามขั้นตอน -ละลายยาด้วย0.9% NSS 10 ml.ควรฉีดสารละลายอย่างช้าๆ - กลิ้งขวดยาอย่างช้าๆเพื่อให้ยาผสมเข้ากัน ห้ามเขย่า จะทำให้เกิดฟอง -นำสารละลายที่ได้เจือจางผสมใน 0.9%NSS 100 ml -ตรวจสอบดูว่ามีการละลายหมด หรือมีการเปลี่ยนสีก่อนให้ยากับผู้ป่วย -ห้ามผสมกับยาชนิดอื่น -ให้สารละลายทันทีหลังผสม เนื่องจากยาไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย และเก็บได้ 8 ชั่วโมง 3. เฝ้าระวังผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนของการให้ยาละลายลิ่มเลือด ดังนี้ - สังเกตอาการเจ็บหน้าอก อาการเหนื่อยและอาการทั่วไป โดยประเมินV/S .N/S และ Monitor EKG อย่างใกล้ชิด หลังผู้ป่วย ได้รับยา SK. - ติดตาม EKG 12 lead ทุก 30 นาที.เพื่อประเมินการเปิดของหลอดเลือดหัวใจ หากอาการเจ็บหน้าอกลดลง และ EKG แสดง ST segment ลดต่ำลง หลังให้ยาแสดงว่าหลอดเลือดหัวใจน่าจะเปิด การส่งต่อผู้ป่วย - แพทย์ >>> ประสานกับ รพ.ขอนแก่น โดยการโทรศัพท์ หรือส่ง Line. - พยาบาล >>>ต้องมีพยาบาล 2 คน. >>>เตรียมอุปกรณ์และยาให้พร้อมใช้ >>> ประเมิน V/S,N/S ทุก 15 นาที. >>>Obseve bleeding. - พนักงานขับรถ >>> เตรียมรถ และตรวจ Check อุปกรณ์ให้พร้อมใช้งาน  
     
ผลการศึกษา : แพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย STEMI ที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด สามารถใช้ CPG ในการบริหารจัดการและคัดกรองผู้ป่วย STEMI ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และทันเวลา  
ข้อเสนอแนะ : เพื่อให้การดำเนินงานดูแลผู้ป่วย STEMI ได้อย่างถูกต้องครบถ้วนและสะดวก ในการดำเนินงาน ควรมีการปรับปรุง CPG ในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่  
     
รางวัลที่ได้รับ : ยังไม่ได้รับรางวัล  
     
  ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับเต็ม (Fulltext)