ประเภทบทความ/งานวิจัย : วิจัย สถานะ : เสนอโครงร่าง
   บทความ/วิจัย เรื่อง : คุณลักษณะส่วนบุคคลและความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของกลุ่มประมงแพสะดุ้งในเขื่อนลำปาว พื้นที่ตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์
ผู้แต่ง : ทวิช วงค์ไชยชาญ,มลิ สุขภานิด ปี : 2563
     
หลักการและเหตุผล : อุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทยพบว่า ในเพศชายมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี มากเป็นอันดับ ๑ (๔๐.๓ ต่อประชากรแสนคน) ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่าทั้งเพศชายและหญิง มีอัตราการเกิดโรคมะเร้งตับและมะเร็งท่อน้ำดีเป็นอันดับ ๑ นอกจากนี้ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดี จำนวน ๑๔,๔๖๙ คน คิดเป็นอัตรา ๒๒.๕ ต่อแสนประชาการ เป็นเพศชาย ๑๐,๓๘๐ คน เพศหญิง ๔,๐๘๙ คน อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีปัญหาเรื่องการบันทึกข้อมูลที่มารับบริการที่โรงพยาบาลยังไม่ครอบคลุม ทำให้ข้อมูลจำนวนหนึ่งไม่ได้ถูกรายงานในระบบของกระทรวงสาธารณสุข และคาดประมาณว่า ๗๐ % ของรายงานมะเร็งดังกล่าวเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ดังนั้นในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ำดีไม่ต่ำกว่า ๒๐,๐๐๐ คน ประชาชนเป็นโรคพยาธิใบไม้ตับ จากการกินอาหารประเภทปลาน้ำจืดเกล็ดขาว(ตระกูลปลาตะเพียน) เมนูปรุงดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ หรือที่มีตัวอ่อนของพยาธิปนเปื้อน และกลุ่มที่เป็นโรคพยาธิใบไม้ตับจะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งท่อน้ำดี และมีโอกาสเสียชีวิตได้ ซึ่งขณะนี้ประชาชนในประเทศไทยที่เป็นโคพยาธิใบไม้ตับมีประมาณ ๖ ล้านคน และประชากรกลุ่มนี้จะพัฒนามะเร็งท่อน้ำดีในระยะเวลาประมาณ ๒๐ – ๓๐ ปีข้างหน้า โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบผู้เป็นพยาธิใบไม้ตับ ๑๘.๖ % ภาคเหนือ ๑๐.๐ % ภาคกลางและภาคใต้พบต่ำกว่า ๕ % จากการรายงานศึกษาวิจัยพบว่าอัตราการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับในอิสานเหนือมีค่าเฉลี่ย ๒๒.๕ % อัตราการติดเชื้อใบไม้ในตับสูงสุด ๘๐ % จากการสำรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ ๔๐ ปีขึ้นไป ในปี ๒๕๖๒ ในตำบลดงสมบูรณ์ จำนวน ๖๕๘ คน พบว่าประชาชนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับจำนวน ๖๕๕ คิดเป็น ๙๙.๕๔ % ประกอบกับภูมิศาสตร์ของพื้นที่ตำบลดงสมบูรณ์ติดกับเขื่อนลำปาวและมีประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงน้ำจืดโดยใช้แพสะดุ้ง จำนวน 124 หลัง ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้จะอาศัยในแพสะดุ้งเป็นประจำ มีการปรุง ประกอบอาหาร การขับถ่ายภายในแพสะดุ้ง และยังบริโภคส้มตำปลาร้าดิบ แจ่วบองปลาร้าดิบ ปลาส้มดิบ และก้อยปลาดิบ/ลาบปลาดิบ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงน้ำจืดโดยใช้แพสะดุ้งมีพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสมมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดีมาก ผู้วิจัยจึงให้ความสำคัญ และสนใจที่จะศึกษาคุณลักษณะส่วนบุคคลและความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของประชากรกลุ่มประมงแพสะดุ้ง ในเขื่อนลำปาว พื้นที่ตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ รวมถึงศึกษาถึงปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะในการ เพื่อนำผลการศึกษาดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการวางแผน พัฒนาและสนับสนุนการปฏิบัติงานเสริมสร้างความรอบรู้ ด้านสุขภาพในด้านการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของประชาชนต่อไป  
วัตถุประสงค์ : วัตถุประสงค์หลัก 1. เพื่อศึกษาคุณลักษณะส่วนบุคคลและความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของกลุ่มประมงแพสะดุ้งในเขื่อนลำปาว พื้นที่ตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ วัตถุประสงค์เฉพาะ 1. เพื่อศึกษาคุณลักษณะส่วนบุคคลและความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของกลุ่มประมงแพสะดุ้งในเขื่อนลำปาว พื้นที่ตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ 2. เพื่อศึกษาคุณลักษณะส่วนบุคคล ระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพและระดับพฤติกรรมการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของกลุ่มประมงแพสะดุ้งในเขื่อนลำปาว พื้นที่ตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ 3. เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีของกลุ่มประมงแพสะดุ้งในเขื่อนลำปาว พื้นที่ตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์  
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนอายุ 15 ปี ขึ้นไป ที่ประกอบอาชีพประมงแพสะดุ้ง บริเวณเขื่อนลำปาว จำนวน 124 คน  
เครื่องมือ : แบบสอบถาม และ แนวทางการสนทนากลุ่ม  
ขั้นตอนการดำเนินการ : การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบวิจัยเชิงพรรณนาภาคตัดขวาง (Cross-Sectional Descriptive Research) ในเขตพื้นที่ตำบลดงสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยศึกษาในกลุ่มตัวอย่างคือ ประชาชนอายุ 15 ปี ขึ้นไป ที่ประกอบอาชีพประมงแพสะดุ้ง บริเวณเขื่อนลำปาว จำนวน 124 คน ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 30 ธันวาคม 2563 ระยะเวลา 7 เดือน วิธีดำเนินการวิจัย และการเก็บรวบรวมข้อมูล 1. ระยะเตรียมการ ผู้วิจัยเตรียมก่อนการวิจัย ดังนี้ 1.1 จัดทำโครงการวิจัย 1.2 สร้างเครื่องมือ (แบบสอบถาม, แนวทางการสนทนากลุ่ม) 1.3 ขออนุมัติจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ 2. ระยะการดำเนินการ 2.1 เก็บรวบรวมข้อมูล 2.2 วิเคราะห์ข้อมูล 2.3 เขียนรายงานการวิจัย 2.4 เขียนบทความการวิจัย 2.5 เผยแพร่บทความการวิจัย  
     
ผลการศึกษา :  
ข้อเสนอแนะ :  
     
รางวัลที่ได้รับ : ยังไม่ได้รับรางวัล  
     
  ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับโครงร่าง