|
ประเภทบทความ/งานวิจัย : R2R |
สถานะ : จัดทำรายงาน |
บทความ/วิจัย เรื่อง : นวัตกรรมชารางจืด ขับสารเคมีในเลือดเกษตรกร |
ผู้แต่ง : |
อังศณา ปัจฉิมา และคณะเจ้าหน้าที่ |
ปี : 2559 |
|
|
|
หลักการและเหตุผล : |
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองชุมแสง ได้มีการดำเนินงานดูแลสุขภาพเกษตรกรซึ่งจัดเป็นกลุ่มแรงงานหลัก โดยมีการเฝ้าระวังทางสุขภาพของเกษตรกร โดยการคัดกรองความเสี่ยงและตรวจหาระดับของเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสและดำเนินงานเฝ้าระวังโรคพิษจากสารกำจัดศัตรูพืช จากผลการดำเนินการเฝ้าระวังทางสุขภาพเกษตรกรปีงบประมาณ 2556 2557 2558 โดยเจาะเลือดตรวจคัดกรองหาระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส พบว่า เกษตรกรมีผลเลือดในระดับที่เสี่ยงและไม่ปลอดภัย เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองชุมแสงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้นำเอา “รางจืด” ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านของเราที่สามารถปลูกได้เองและหาง่ายในชุมชน มาผลิตเป็นชาชงดื่มเพื่อเป็นแนวทางในการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชให้กับเกษตรกร
|
|
วัตถุประสงค์ : |
1. เพื่อให้ประชาชน กลุ่มเสี่ยงและ กลุ่มไม่ปลอดภัย ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการใช้ชารางจืด
2. เพื่อประยุกต์ใช้สมุนไพรในท้องถิ่นในการดูแลสุขภาพตนเอง
|
|
กลุ่มเป้าหมาย : |
กลุ่มที่มีผลการตรวจหาสารเคมีในเลือดอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย ที่ประสงค์เข้ารับการขับสารพิษ โดยช้ารางจืด จำนวน ๔๙ ราย |
|
เครื่องมือ : |
แบบคัดกรองความเสี่ยงและตรวจหาระดับของเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส |
|
ขั้นตอนการดำเนินการ : |
วิธีการศึกษา
เป็นการศึกษาเชิงพรรณา คัดเลือกจากกลุ่มที่มีผลการตรวจหาสารเคมีในเลือดอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จำนวน 4,353 คน ที่ประสงค์เข้ารับการขับสารพิษ โดยชารางจืด จำนวน 49 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS สถิติที่ใช้ ร้อยละ และ การทดสอบความสัมพันธ์ |
|
|
|
|
ผลการศึกษา : |
จากการดำเนินงานในการตรวจคัดกรองเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในเขตตำบล จำนวน 14 หมู่บ้าน โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลล่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองชุมแสงซึ่งมีประชากรกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 4,353 คน
ผลการขับสารเคมีในกระแสเลือดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองชุมแสง ตำบลหนองใหญ่ อำเภอหนองกุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์
จากการตรวจหาสารเคมีในเลือดเกษตรกร จำนวน 229 ราย พบว่า ปกติ จำนวน 30 คน ปลอดภัย จำนวน 43 คน มีความเสี่ยง จำนวน 99 คน และไม่ปลอดภัย จำนวน 57 คน จึงได้นำกลุ่มเสี่ยงและไม่ปลอดภัยที่ประสงค์จะเข้ารับบริการขจัดสารเคมีในเลือด จำนวน 49 ราย เข้ารับการ Detox
การเจาะเลือดตรวจคัดกรอง
จากกลุ่มเป้าหมายในการตรวจคัดกรองหาสารเคมีในเลือดเกษตรกร จำนวน 4,353 คน พบว่า
ปกติ จำนวน 30 คน
ปลอดภัย จำนวน 43 คน
มีความเสี่ยง จำนวน 99 คน
ไม่ปลอดภัย จำนวน 57 คน
การให้ความรู้ คำแนะนำในการปฏิบัติตน
กลุ่มเป้าหมายได้รับการอบรมให้ความรู้ในเรื่องสารเคมี ทั้งวิธีการใช้ วิธีการป้องกันและวิธีการปฏิบัติตนเมื่อได้รับสารเคมีโดยตรงและมีอาการเฉียบพลัน ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมาย
การดื่มชาชงรางจืด โดยกิน เช้า – เย็น ติดต่อกัน 7 วัน พบว่าการ Detox ด้วยวิธีการกินรางจืด สามารถลดสารเคมีในกระแสเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ได้ ร้อยละ 85.71 ซึ่งสรุปได้ว่ากลุ่มเสี่ยงและไม่ปลอดภัย ที่เข้ารับการ Detox โดยวิธีดื่มชาชงรางจืด สามารถลดสารเคมีในกระแสเลือดได้จริง ร้อยละ 85.71
|
|
ข้อเสนอแนะ : |
1. ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักถึงโทษพิษภัยของสารเคมี และเข้ารับการตรวจคัดกรอง
2. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนปลูกรางจืดไว้ในครัวเรือน
3. พัฒนาความรู้ อสม.ให้มีความรู้ ทักษะ ในการแก้ไขปัญหาสารเคมีในเลือดในชุมชน
|
|
|
|
|
รางวัลที่ได้รับ : |
คัดเลือกเข้านำเสนอผลงานกระทรวง ระดับ ระดับจังหวัด |
|
|
|
|
|
ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับโครงร่าง
|
|
|
|
|