|
ประเภทบทความ/งานวิจัย : CQI |
สถานะ : จัดทำรายงาน |
บทความ/วิจัย เรื่อง : 1. เรื่อง...การพัฒนาระบบการให้บริการคลินิกโรคเบาหวาน |
ผู้แต่ง : |
นางสาวพัชรินทร์ ทัพวิเศษ 3-499-00073-54-2 |
ปี : 2559 |
|
|
|
หลักการและเหตุผล : |
งานผู้ป่วยนอก รพ.ห้วยผึ้ง จัดให้มีบริการผู้ป่วยคลินิกเบาหวาน ในวันพุธ ซึ่งนัดผู้ป่วยเบาหวานนอกเขต อ.ห้วยผึ้ง และวันพฤหัสบดี นัดผู้ป่วยเบาหวานในเขต ต.นิคมห้วยผึ้ง เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งจากยอดผู้ป่วยเบาหวาน 3 ปี ย้อนหลัง ปี 2555 , 2556 , 2557 , และ 2558 (1 ต.ค. 2557 – 30 ก.ย. 58 ) ดังนี้ คือ 1,160 คน , 1,252 คน , 1,406 , 1,586 , และ 1,618 คน ตามลำดับ จะพบว่า จำนวนผู้ป่วย เบาหวานมีจำนวนคนเพิ่มขึ้นทุกปี ในการจัดคลินิกบริการ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเน้นการจัดบริการ เชิงคุณภาพ ทางการรักษา ส่งเสริม เสริมพลังแก่ผู้ป่วยและญาติ ซึ่งปัญหาในการดำเนินงาน มีทั้งการประเมินสภาพผู้ป่วยล่าช้า เกิดภาวะฉุกเฉิน ขณะรอตรวจระดับความพึงพอใจน้อยกว่าเกณฑ์ ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งได้จัดการพัฒนาระบบคลินิกบริการงานเบาหวาน ให้มีคุณภาพขึ้น |
|
วัตถุประสงค์ : |
- เพื่อพัฒนาระบบบริการให้สะดวก รวดเร็ว ไม่ซ้ำซ้อน
- เพื่อป้องกันการเกิดภาวะฉุกเฉิน ขณะรอตรวจ
- เพื่อลดระยะรอคอย ในการรับบริการ
- เพื่อตอบสนอง ความพึงพอใจของผู้รับบริการ
|
|
กลุ่มเป้าหมาย : |
ผู้ป่วยเบาหวานที่มารับบริการงานผู้ป่วยนอก รพ.ห้วยผึ้ง |
|
เครื่องมือ : |
แนวทางปฎิบัติ CPG เพื่อทำให้การให้บริการในคลินิกโรคเบาหวาน มีคุณภาพ ผู้ป่วยเบาหวานมีภาวะฉุกเฉินขณะรอตรวจได้รับการดูแลอ่างถูกต้อง ระยะเวลาในการรอคอยลดลง ผู้มารับบริการมีความพึงพอใจ |
|
ขั้นตอนการดำเนินการ : |
ก่อนการพัฒนางาน (ปีงบประมาณ 2557)
1. รับบัตรคิวคลินิกเบาหวานในเช้าวันคลินิก
2. ผู้ป่วยรับการชั่งน้ำหนักและความดันโลหิตในวันพุธและวันพฤหัสบดี ส่วนพยาบาลซักประวัติวัดไข้
3. ผู้ป่วยเบาหวาน รับการเจาะเลือดจากเจ้าหน้าที่ห้องLab หลังคลินิกเบาหวาน
4. ผู้ป่วยเบาวาน รับแฟ้มประวัติพร้อมผลเจาะ FBS จาก เจ้าหน้าที่ Lab มาให้พยาบาลคัดกรองเพื่อซักปะวัติ (โดยยึดตามคิว)
5. พยาบาลจะซักประวัติผู้ป่วยเบาหวานที่เจาะเลือด เบาหวานประจำปี ก่อน ส่วนผู้ป่วยเบาหวานเจาะ FBS ทั่วไปก็จะซักประวัติตามคิว และกรณีผู้ป่วยเบาหวานใช้ยาฉีด จะให้แฟ้มไปฉีดยา ที่ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน แล้วนำแฟ้มประวัติมาคืน
6. กรณีที่ FBS < 70 หรือ FBS >300 mg% เจ้าหน้าที่ Lab จะส่งแฟ้มประวัติให้ พยาบาลที่โต๊ะซักประวัติก่อนเพื่อนำส่ง ผู้ป่วยไปER จะได้ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนตาม CPG ของการดูแล ผู้ป่วยเกิดภาวะHyperglycemia
7. กรณี FBS ≥ 200 mg% จะส่งผู้ป่วยเบาหวานเข้าพบนักโภชนาการให้ความรู้
8. พยาบาลจะนำแฟ้มประวัติไปลงข้อมูลในโปรแกรม HosXP และจัดคิวเข้าตรวจ
9. กรณี ผู้ป่วยเบาหวานเจาะเลือดประจำปี จะรอผลประมาณ 2 ชั่วโมงเมื่อได้เลือดแล้วนำมาบันทึกที่แฟ้มประวัติ และสมุดคู่มือผู้ป่วยเบาหวานก่อนจึงจัดคิวเข้าตรวจ
10. เข้าตรวจกับแพทย์
11. รับบัตรนัดและรับสุขศึกษา คำแนะนำ หลังตรวจกับพยาบาล
12. ส่งไปตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทาง เท้า กับนักกายภาพ และตรวจฟัน กับเจ้าหน้าที่ งานทันตกรรม
13. รับยากลับบ้าน
วิธีดำเนินการพัฒนาหลังการพัฒนา ( ปีงบประมาณ 2558 ) ระยะที่1
1. – 3. เหมือนเดิม
4. ปรับขั้นตอนการซักประวัติผู้ป่วย เบาหวาน จากผู้ป่วยถือแฟ้มยืนรอซักประวัติ เปลี่ยนเป็นพยาบาลซักประวัติจากเจ้าหน้าที่Lab ที่เจาะ FBS เสร็จแล้วนำมาคัดแยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานเจาะเลือดประจำปี และกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานมาตรวจรักษารับยาต่อเนื่อง พร้อมให้ผู้ป่วยส่งรอเรียกชื่อซักประวัติแทนไม่ให้คนไข้ยืนเข้าแถวแล้ว
5. – 13. เหมือนเคย
วิธีการดำเนินงานหลังการพัฒนา (ปีงบประมาณ 2559) ระยะที่ 2 (เริ่ม 1 ต.ค.58-ปัจจุบัน)
จากผลการประเมินความพึงพอใจที่ผู้ป่วยเบาหวาน เสนอแนะว่า ต้องการได้รับการเจาะเลือดตั้งแต่เช้า ทางทีมงาน NCD จึงนำเข้าประชุมปรึกษาหารือ เมื่อได้ข้อสรุปจึงนำเข้าเสนอให้คณะกรรมการบริหาร โรงพยาบาลห้วยผึ้ง โดยการปรับเวลาบริการ เจาะเลือดเช้าขึ้น คือ เวลา 07.30 – 08.30 น. โดยจัดเจ้าหน้าที่ มาทำงนก่อนเวลาประกอบด้วย
1. พยาบาลซักประวัติ
2. เจ้าหน้าที่ห้อง Lab
3. เจ้าหน้าที่ ห้องบัตร ค้นแฟ้มประวัติ
โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 (1 ต.ค. 2558 – ถึงปัจจุบัน)
ส่วน กระบวนการบริหาร ขั้นตอนทุกอย่างเหมือนปี 2558 , คือจากลำดับ 1- 13 เช่นเคย
ในกรณี การคัดกรองภาวะแทรกซ้อน จะทำปีละ 1 ครั้ง มี
1. ตรวจเลือด Lipid Profile ,BUN , Cr, UA
2. ตรวจตา
3. ตรวจฟัน
4. ตรวจเท้า
|
|
|
|
|
ผลการศึกษา : |
|
|
ข้อเสนอแนะ : |
|
|
|
|
|
รางวัลที่ได้รับ : |
ยังไม่ได้รับรางวัล |
|
|
|
|
|
ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับโครงร่าง
|
|
|
|
|