|
ประเภทบทความ/งานวิจัย : CQI |
สถานะ : วิเคราะห์ข้อมูล |
บทความ/วิจัย เรื่อง : การพัฒนาระบบการจำหน่ายผู้ป่วยสูงอายุโรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและต่ำในหอผู้ป่วยโรงพยาบาลท่าคันโท โดยใช้แบบบันทึกวิถีโคจรความเจ็บป่วย (Aging Illness Trajectory) และแบบประเมินการพยาบาลผู้สูงอายุ (Geriatric Nursing Assessment) |
ผู้แต่ง : |
นางชลีกาญจน์พัฒยา น.ส.เนตรดาว นาหนองตูม นายเฉลิมวิทย์ หาชื่น |
ปี : 2560 |
|
|
|
หลักการและเหตุผล : |
โรคเบาหวานเป็นโรคที่มีอัตราการ Re-admitสูงเป็นอันดับ1ของหอผู้ป่วย
โรงพยาบาลท่าคันโทจากการทบทวนพบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ โดยพบอัตราการ re-admit ปี พ.ศ. 2558, 2559 และ 2560 เป็นผู้สูงอายุเบาหวานที่มีภาวะHypo-Hyperglycemia ร้อยละ 4.57 , 3.58 , 6.58 ตามลำดับ และพบว่าผู้ป่วยสูงอายุโรคเบาหวานที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลท่าคันโท ในช่วงเดือน ตุลาคม 2559 ถึงกันยายน 2560 จำนวน 170 ราย ส่วนใหญ่(ร้อยละ 69.96) เป็นผู้ป่วยสูงอายุมีโรคเรื้อรังร่วม 2 ชนิดขึ้นไป ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวาย และทั้งหมดเคยได้รับการอธิบายความรู้เพื่อป้องกันการเกิด Hypo-Hyperglycemia ก่อนกลับบ้าน แต่ยังคงกลับมา Re-admit ภายใน 28 วันด้วยวินิจฉัย Hypo-Hyperglycemia
เดิมรูปแบบการจำหน่ายในหอผู้ป่วยมีลักษณะเป็นรูปแบบเดียวกัน คือ การให้สุขศึกษา (Heath Education)ตามกรอบ DMETHOD โดยทำ 1-2 ครั้งก่อนผู้ป่วยกลับบ้าน ซึ่งไม่มีความจำเพาะต่อปัญหาสุขภาพผู้ป่วยแต่ละบุคคล แต่จากการทบทวนวรรณกรรมพบว่าปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุมักมีความเฉพาะและซับซ้อนเนื่องจากมักโรคเรื้อรังร่วมหลายโรค และมีสภาพความเสื่อมเฉพาะแบบผู้สูงอายุ(Geriatric syndrome) เมื่อผู้สูงอายุเกิดการเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในจึงมีความจำเป็นต้องจัดการพยาบาลที่เฉพาะแตกต่างกันในแต่ละคน ตามลักษณะปัญหาที่พบ ดังนั้นการวิเคราะห์ประเมินปัญหาสุขภาพในผู้สูงอายุ จึงควรมีกระบวนการประเมินที่ครอบคลุมปัญหาตามสภาวะผู้สูงอายุ อีกทั้งเข้าใจวิถีโคจรการเจ็บป่วยของผู้สูงอายุรายบุคคลเพื่อวางแผนการดูแลและจำหน่ายอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น และออกแบบแผนการจำหน่ายที่เหมาะสมกับผู้ป่วยสูงอายุและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพแต่ละบุคคล
|
|
วัตถุประสงค์ : |
พัฒนาระบบการวางแผนจำหน่ายเพื่อลดอัตราการ re-admit ในผู้ป่วยสูงอายุโรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน(Hypo-Hyperglycemia) ให้ต่ำกว่า ร้อยละ 5 |
|
กลุ่มเป้าหมาย : |
ผู้สูงอายุโรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน Hypo-Hyperglycemia |
|
เครื่องมือ : |
แบบบันทึกวิถีโคจรความเจ็บป่วยของผู้สูงอายุและแบบประเมินการพยาบาลผู้สูงอายุ |
|
ขั้นตอนการดำเนินการ : |
การดำเนินการแบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 : การศึกษาสถานการณ์การดูแลผู้ป่วยสูงอายุ โรคเบาหวาน ที่ Re-Admit ด้วยภาวะ
Hypo-Hyperglycemia
ทำการศึกษาสถานการณ์การดูแลผู้ป่วยสูงอายุ โรคเบาหวาน ที่ Re-Admit ด้วยภาวะ Hypo-Hyperglycemia ช่วงเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2559- กันยายน พ.ศ. 2560จำนวน 16 ราย โดยการใช้ 2 เครื่องมือ คือ 1)แบบบันทึกวิถีโคจรความเจ็บป่วยของผู้สูงอายุ ซึ่งมีการบันทึก 2 ส่วนคือ ก่อนรักษาและขณะรักษา 2) แบบประเมินการพยาบาลผู้สูงอายุ ซึ่งมีจุดเด่นที่วงแหวนความเจ็บป่วยของผู้สูงอายุใช้ค้นหาและระบุปัญหาสำคัญของผู้สูงอายุ
จากการศึกษาพบว่า ; ผู้สูงอายุเบาหวาน ที่มีภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน Hypo- Hyperglycemia ที่มาRe-admit มีวิถีโคจรที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยและมีพฤติกรรมสุขภาพที่อยู่ในวงแหวนความเจ็บป่วยโดยสรุป 5 ประเด็นหลัก คือ
1) มีประวัติพฤติกรรมทำลายสุขภาพ : โดยพบว่า มีพฤติกรรมสูบบุหรี่เป็นประจำ ร้อยละ 68.75 ดื่มสุราเป็นประจำ ร้อยละ 68.42
2) มีวิถีการดำรงชีวิตโดยไม่มีผู้ดูแล : โดยอยู่ลำพังกับคู่สมรสที่สูงอายุเช่นกันและมีผู้สูงอายุเป็นผู้ดูแล ร้อยละ 75.0 อยู่กับหลานที่อายุน้อยกว่า 15 ปี ร้อยละ 31.25
3) มีพฤติกรรมดูแลสุขภาพขณะเจ็บป่วยไม่เหมาะสม :ได้แก่ หลังฉีดยาเบาหวานรับประทานอาหารช้าเกินเวลา 30 นาทีขึ้นไป ร้อยละ 56.25 อดอาหารเพื่อมาเจาะเลือดตามนัด ร้อยละ 87.5 ใช้สมุนไพร ราคาแพงตามโฆษณา โดยไม่รับประทานยา/ฉีดยาตามแพทย์สั่ง ร้อยละ 68.78 ไม่ควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหาร รับประทานข้าวเหนียวและผลไม้ตามฤดูกาลปริมาณมากเกินควร ร้อยละ 87.5
4) ปัญหาการใช้ยา : การเก็บยาไม่ถูกวิธี ยาที่ไม่อยู่ในปากกาเมื่อเปิดใช้ไม่ได้เก็บในตู้เย็น ร้อยละ 56.25 ไม่เข้าใจการอธิบายการใช้ยา ใช้วิธีการพูดคุยแลกเปลี่ยนการกินยากับเพื่อนบ้านทำให้ใช้ยาตามขนาดยาเพื่อนบ้านร้อยละ 43.75 ยาหมดก่อนนัด ไม่มีรถมารับยา ใช้วิธีการขอยาเพื่อนบ้านกิน ซึ่งกินยาชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกันร้อยละ 37.5 มีการใช้ยาหลายขนานรักษาหลายโรคโดยไม่เก็บยาในซองยาเดิม หรือเก็บยาไว้นอกซองยา ร้อยละ 62.5
5) ปัญหาความเสื่อมวัยสูงอายุ: ได้แก่ มีปัญหาด้านสายตา / การได้ยิน ทำให้ฉีดยาไม่ถูก ร้อยละ56.25ปัญหาด้านความจำ สับสน หลงลืม จำขนาดยาไม่ได้ จำวิธีการใช้ยาไม่ได้ ร้อยละ 43.75
ระยะที่ 2: พัฒนาโปรแกรมการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคเบาหวานในผู้สูงอายุ
1.การดูแลก่อนจำหน่าย :
1.1 กำหนดให้มีพยาบาลผู้จัดการแผนจำหน่าย ทำหน้าที่ประสานงานให้ทีมสหวิชาชีพผู้ดูแลผู้ป่วยทั้งภายในโรงพยาบาลและในชุมชน ดูแลให้แผนการดูแลมีความต่อเนื่อง ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับการดูแลตอบสนองอย่างเหมาะสมตามแผนการจำหน่าย
1.2 กำหนดการวางแผนจำหน่าย ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ 1) การประเมินปัญหา โดยใช้กรอบปัญหาสุขภาพ 5 ประเด็นหลัก ที่ได้จากการศึกษาสถานการณ์ผู้สูงอายุตามแบบบันทึกวิถีโคจรความเจ็บป่วยและแบบประเมินการพยาบาลผู้สูงอายุ 2) แผนการดูแลเฉพาะรายในโรงพยาบาลเพื่อเตรียมการจำหน่าย 3)แผนการส่งต่อ ระหว่างทีมสุขภาพโดยมีการดูแลแบบเฉพาะรายตามปัญหาความต้องการที่ค้นพบ
1.3 กำหนดแนวทางปฏิบัติในการวางแผนจำหน่าย โดยเรียกว่า “4 Days D -METHOD In hospital Discharge planning”
1.4 จัดทำคู่มือปฏิบัติตัวแบบ Individual ให้เหมาะสมในปัญหาแต่ละราย
1.5 นวัตกรรมซองยากินจำง่าย และนวัตกรรมป้ายยาฉีดกันลืม
2.การดูแลขณะจำหน่าย:
2.1 สหวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ประเมินความพร้อมกลับบ้านครั้งสุดท้าย เช่น เภสัชกร สอนประเมินความพร้อมการใช้ยาซ้ำ/นักกายภาพบำบัด
2.2 พยาบาลจำหน่าย ประเมินความรู้ความเข้าใจผู้ป่วย/ผู้ดูแลซ้ำ ตามแบบฟอร์มการวางแผนจำหน่ายโรคเบาหวาน และส่งต่อข้อมูลCOC / ทีมเยี่ยมบ้าน / คลินิกเบาหวาน
3.การติดตามเยี่ยมบ้าน :
3.1 COC ส่งต่อข้อมูลทีมเยี่ยมบ้าน / CM CG ในพื้นที่
3.2ทีมเยี่ยมบ้าน พื้นที่ติดตามเยี่ยม ส่งคืนข้อมูลการเยี่ยมที่ COC และ COC ส่งคืนข้อมูลมาที่หอผู้ป่วย
3.3 ทีมสหวิชาชีพ เลือกผู้ป่วยเพื่อนำข้อมูลทำ Conference ความสำเร็จ/ปัญหา การจำหน่าย
|
|
|
|
|
ผลการศึกษา : |
ใช้เครื่องมือในการประเมินสุขภาพผู้ป่วยแทนการประเมินเดิม
2) เกิดโปรแกรม 4 Days D -METHOD In hospital Discharge planning
3) เกิดการทำงานของสหวิชาชีพอย่างเป็นรูปแบบ
4) พยาบาลทำตามระบบจำหน่าย
4.1 ประเมินภาวะสุขภาพตามกรอบประเด็น 5 ด้าน
4.2 วางแผน Discharge planning ตามแนวทางระบบ
5) ผู้รับบริการ
5.1 ผู้รับบริการพึงพอใจได้รับการตอบสนองปัญหาตามความต้องการและมีส่วนร่วมในการดูแล
5.2 ความสามารถในการจัดการสุขภาพเมื่อมีภาวะ Hypo-Hyperglycemia
5.3 อัตราการ Re-admit ในผู้ป่วยสูงอายุโรคเบาหวานที่มีภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน Hypo-Hyperglycemia ในเดือน ตุลาคม 2560 ถึง ธันวาคม 2560 มี 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 7.5 ซึ่งยังคงสูงกว่าเป้าหมาย
|
|
ข้อเสนอแนะ : |
|
|
|
|
|
รางวัลที่ได้รับ : |
ยังไม่ได้รับรางวัล |
|
|
|
|
|
ดาวน์โหลด : เอกสารฉบับโครงร่าง
|
|
|
|
|